อ. ผึ้ง ชวนคุยเรื่องเคล็ดลับเก่งภาษาอังกฤษอยู่บ่อยๆ วันนี้เรามาคุยเรื่องเคล็ดลับสมองดีกันบ้าง การสร้างสมองที่ดีต้องมีทั้งความคิดที่คล่องแคล่วและความจำดีที่ เพื่อการเรียนรู้ฉับไว มาดูเทคนิคพัฒนาสมองและความจำแบบง่ายๆ 5 ข้อกันค่ะ


หลายคนมองว่าความจำดี หรือไม่ดี เป็นเรื่องของอายุ ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ความจำก็ต้องแย่ลงสินะ ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไปด้วย ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพความคิดและความจำก็ยิ่งถอยหลังตามคาดจริงๆ และเผลอๆ อาจเร็วกว่าที่คาดไว้ด้วย

ความจริงคือ อายุมีส่วนเกี่ยวอยู่บ้าง แต่เน้นว่า “บ้าง” นะคะ เพราะนอกจากเรื่องความแตกต่างของประสิทธิภาพสมองและร่างกายแต่ละคนแล้ว มันขึ้นกับการรู้เทคนิคความจำ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องด้วย นั่นหมายความว่าถ้าเรารู้เทคนิคการฝึกสมองที่ถูกต้องก็สามารถช่วยให้ความจำดีขึ้น และชะลออาการหลงลืมง่ายเมื่ออายุมากขึ้นได้ด้วย

สำหรับ 5 เทคนิคง่ายๆ วันนี้ อ.​ ผึ้ง คอนเฟิร์มว่าใช้กับตัวเองอยู่ตลอด และใช้มานานมากแล้ว ก็ร่างกายและสมองของเรามีหนึ่งเดียวเท่านั้น เสื่อมแล้วซ่อมยาก เปลี่ยนใหม่ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ใครอยากได้ความจำดีที่จะอยู่กับเราไปนานๆ มาดูกันค่ะ

1. Break the routine – เลิกทำสิ่งเดิมๆ

เวลาทำแต่สิ่งเดิมๆ สมองจะเกิดอาการขี้เกียจ เพราะกิจกรรมที่เราทำซ้ำๆ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทุกวันๆ กลายเป็นอัตโนมัติไปซะหมด อย่างเช่น ทำอาหารแบบเดิมทุกวัน ซื้ออาหารร้านเดิม กินเมนูเดิม ไปเรียนหรือทำงานด้วยเส้นทางเดิม แวะร้านเดิม (ที่ต่อให้เดินหลับตาก็ยังไปถูก!)

แบบนี้เหมือนจะดี แต่ไม่ดี เพราะบอกแล้วว่า เมื่อทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ สมองจะขี้เกียจ ไม่ต้องจำข้อมูลอะไรใหม่ๆ ให้เหนื่อยก็ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ได้นี่นา แต่พอถึงเวลาต้องป้อนข้อมูลใหม่ลงไป สมองกลับรับไม่ไหว แถมใจไม่สู้ เพราะกลัวเป็นเรื่องยาก ทำให้เราจดจำสิ่งใหม่ๆ ไม่ได้ด้วย

อ. ผึ้ง แนะนำให้ลองเปลี่ยนกิจกรรมที่ทำแต่ละวันบ้าง แวะร้านใหม่ๆ ลองกลับบ้านเส้นทางใหม่ๆ ลองหาความรู้ในเรื่องใหม่ๆ หรือทดลองใช้แอพลิเคชั่นตัวใหม่ๆ ถ้าวันไหนไม่สะดวกทดลองของใหม่ ลองสลับตารางเวลากิจกรรมต่างๆ ของเราแทนก็ได้

2. Brainteaser / Puzzle – เล่นเกมฝึกสมอง

เกมฝึกสมองไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กเล็กเท่านั้น ในสหราชอาณาจักร (UK) เกมฝึกสมองเป็นกิจกรรมฮิตสำหรับผู้ใหญ่ ไปถึงผู้สูงอายุเลยค่ะ ในร้านหนังสือและร้านค้าตามสถานีรถไฟจะมีโซนหนังสือเกมฝึกสมองขายเสมอ เวลา อ. ผึ้ง เดินทางไปทำงานและกลับบ้านมักจะเห็นหนังสือเหล่านี้วางขายตามสถานีรถไฟใต้ดิน เวลานั่งรถนานๆ ผู้โดยสารหลายคนมักจะหยิบหนังสือพวกนี้ออกมาเล่นเกมฆ่าเวลาเพลินๆ (บางครั้งก็รวมทั้ง อ. ผึ้ง ด้วยแหละ)

เกมฝึกสมองแบบง่ายๆ ที่ อ. ผึ้ง แนะนำสำหรับฝึกความจำดี คือ

  • เกมที่เกี่ยวกับคำศัพท์ เช่น เกมอักษรไขว้, เกมสร้างคำศัพท์ใหม่, เกมทายคำศัพท์
  • เกมที่เกี่ยวกับตัวเลข เช่น เกมคำนวณ, เกม Sudoku
  • เกมวางแผน/ตรรกะ เช่น บอร์ดเกม, เกมหมากรุก, ลูกบิด Rubik

เกมอะไรที่ทำให้สมองเราได้คิดวิเคราะห์ ได้แก้ปัญหา ถือว่าใช้ได้ทั้งนั้น ทุกวันนี้ชั้นหนังสือของ อ. ผึ้ง เอง เกือบครึ่งคือหนังสือเกี่ยวกับเกมและการฝึกสมองทั้งนั้น วงการนี้เข้าแล้วออกยากค่ะ

เกมฝึกสมอง รูบิก brainteaser rubik

3. Learn a new language – เรียนภาษาใหม่ๆ

เราคุยกันบ่อยๆ อยู่แล้วว่า การเรียนภาษาใหม่ช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่การประมวลข้อมูล แต่เรื่องความจำด้วย

นั่นเพราะเวลาเรียนภาษาใหม่ๆ เราต้องจดจำคำศัพท์ สำนวน เรียนรู้วิธีสร้างประโยคใหม่ๆ และฝึกการออกเสียงไปด้วย ต่อให้ใครจะบอกว่าเรียนภาษาต้องเน้นความเข้าใจ แต่ยังไงความจำก็ต้องควบคู่ไปด้วยค่ะ ถ้าเข้าใจแต่ไม่รู้คำศัพท์ ก็สื่อสารไม่ได้อยู่ดี

การเรียนภาษาใหม่ ไม่ใช่แค่ได้ความสนุกและโอกาสดีๆ ในชีวิตเพิ่มขึ้น แต่งานวิจัยหลายชิ้นบอกว่าคนที่สามารถพูดได้มากกว่าหนึ่งภาษามักมีสมองที่ยืดหยุ่นกว่า และความจำก็ดีมากกว่าคนที่พูดได้ภาษาเดียวด้วย

การเรียนภาษาใหม่ ต้องใช้ความจำ และกลับกันก็ช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ด้วย

อ. ผึ้ง อารดา

4. Write things down – จดด้วยมือ

ปัจจุบันการบันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือ เป็นเรื่องง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก การถ่ายรูปเนื้อหา (บนกระดานหรือจากหนังสือ) ดูจะง่ายกว่าการจดลงสมุดด้วยลายมือตัวเองด้วย

แต่งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันตรงกันว่าการจดหรือเขียนด้วยมือช่วยให้เราจำข้อมูลนั้นได้ดีกว่าค่ะ

การจดบันทึกด้วยมือเป็นการบังคับให้สมองเราต้อง “ใส่ใจ” จดจ่อ และมีสมาธิกับเรื่องนั้นๆ เพิ่มขึ้น พอมีสมาธิกับเรื่องไหนแล้ว เราจะจำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้แม่นยำกว่า และนานกว่าด้วย

อ. ผึ้ง แนะนำให้หาสมุดโน้ตไว้ใกล้มือสักเล่ม ถ้าอะไรสำคัญจริงๆ ก็ “จด” ซะ

5. Get enough sleep – นอนหลับให้เพียงพอ

ข้อนี้สำคัญมาก ใครเคยนอนไม่ค่อยพอ หรือชอบนอนดึก แล้วตื่นมามึนๆ ไปครึ่งวัน ทำงานผิดพลาดบ่อย ความจำแย่ลง คงเข้าใจปัญหาและความเกี่ยวข้องของการนอนกับสมองดีค่ะ

งานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่า การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเราลดลงได้ถึง 40% เนื่องจากสมองสามารถประมวลข้อมูลได้ช้าลง และสูญเสียการโฟกัส

ระหว่างที่เรานอนหลับลึก นอกจากร่างกายจะได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สิ่งที่มหัศจรรย์มากคือ สมองก็ได้ใช้เวลาช่วงที่เราหลับลึกทำการดีทอกซ์สิ่งไม่จำเป็นออก ขณะเดียวกันสิ่งที่เราได้เรียนรู้ใหม่ในช่วงกลางวันจะถูกจัดระบบระเบียบใหม่ในสมองช่วงกลางคืนที่เราหลับลึก

เมื่อตื่นมาพร้อมสมองที่โปร่ง โล่งเบา นอกจากเราจะรู้สึกสดชื่นแล้ว ประสิทธิภาพสมองยังเพิ่มขึ้น ความคิดก็เฉียบคม ฉับไว และความจำก็ดีขึ้นตามด้วย

ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ทันที และวันนี้เลย ถ้าใครกำลังรู้สึกความจำเริ่มแย่ สมองล้า สมาธิสั้นลง อย่ารีรอค่ะ อะไรที่เชื่อว่าดีกับตัวเราเอง ควรลงมือทำทันที เพราะ “The best time for new beginnings is NOW.” เวลาสำหรับการเริ่มต้นที่ดีที่สุด ก็คือตอนนี้เลย


สำหรับผู้สนใจพัฒนาทักษะการเรียนรู้และการทำงาน ติดตามความรู้และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ เทคนิคคำศัพท์ เทคนิคการเรียน การพัฒนาสมอง และความจำ ได้ที่ Website: alphamaxlearning.com และ Facebook: Arada – Alphamax Learning

ใส่ความเห็น