ช่วงเดือนที่ผ่านมา อ. ผึ้ง ได้ให้คำปรึกษากับอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเกี่ยวกับใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อประกาศจ้างงานบุคคลภายนอกเข้ามาช่วยงานภายใน และเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับคนทำงานทั่วไปด้วย คำศัพท์เจ้าปัญหาในประเด็นนี้คือคำว่า “Outsource” คำที่คนไทยใช้กันแพร่หลาย แต่ยังใช้ไม่ถูกต้อง

บริษัท “จ้าง Outsource” ไม่ได้ แต่บริษัท “จ้าง Freelance” ได้ เพราะทั้งสองคำนี้เป็นวิธีการทำงานคนละแบบ และความหมายก็ต่างกันมากด้วย อยากรู้ว่าเพราะอะไร และควรใช้คำศัพท์ในประโยคแบบไหนจึงจะถูกต้อง มาดูพร้อมกันค่ะ


Freelance กับ Outsource ในการทำงาน

Freelance กับ Outsource เป็นคำที่ช่วยให้ธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มีความยืดหยุ่นในการจ้างงาน เราใช้สองคำนี้ในบริบทการมอบหมายงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะบางอย่างให้กับบุคคลภายนอก แทนการใช้พนักงานในองค์กรของตัวเอง

Freelance คืออะไร?

อ. ผึ้ง ได้อธิบายความหมายและขอบเขตการทำงานของฟรีแลนซ์ไว้ในบทความก่อนหน้าแล้ว สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ โดยพื้นฐานแล้ว ฟรีแลนซ์คือคนทำงานอิสระ ที่มีทักษะเฉพาะด้าน สามารถจัดการตารางงานของตัวเองได้
(แม้จะไม่ทั้งหมด) มีความยืดหยุ่นในวิธีทำงาน และอาจรวมถึงสถานที่ทำงานด้วย

ฟรีแลนซ์ถือเป็นบุคคลภายนอกองค์กร เมื่อจบโปรเจ็กต์แล้วก็ได้ค่าจ้างตามสัญญา ไม่มีภาระผูกพันต่อ

คำว่า Freelance เมื่อเป็นคำกริยา หมายถึง ทำงานแบบฟรีแลนซ์ ตามลักษณะที่อธิบายไปข้างต้น ส่วนคำว่า Freelancer เป็นคำนาม หมายถึง คนที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์ เพราะฉะนั้น เราจะเจอการเขียนแบบนี้ เช่น

  • A freelance writer นักเขียนฟรีแลนซ์
  • A freelance programmer นักเขียนโปรแกรมฟรีแลนซ์
  • A freelance tutor ติวเตอร์ฟรีแลนซ์

ตัวอย่างการใช้ในประโยค เช่น

  • I would rather freelance from home than work in an office.
    • ฉันอยากทำงานแบบฟรีแลนซ์จากบ้านมากกว่าต้องทำงานแบบนั่งในออฟฟิศ
  • How can I freelance and make money from my skills?
    • ฉันจะทำงานแบบฟรีแลนซ์และหาเงินจากทักษะที่มีได้อย่างไร

Outsource คืออะไร?

เมื่อบริษัทหรือองค์กรมีโปรเจ็กต์ระยะสั้นบางอย่าง อาจเลือกใช้วิธีจ้างบุคคลภายนอกหรือบริษัทอื่นเพื่อทำงานเฉพาะตามโปรเจ็กต์นั้นให้สำเร็จ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง อาจเพราะต้องการประหยัดรายจ่าย ประหยัดเวลา หรือได้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในทักษะนั้นมาช่วยงาน

นอกจากนี้ อาจเป็นการว่าจ้างภายในประเทศ หรือข้ามประเทศก็ได้ อย่างเช่นที่สหราชอาณาจักร ที่ อ. ผึ้ง ทำงานอยู่นี้ บริษัทใหญ่ๆ อย่าง ธนาคาร ผู้ให้บริการระบบสื่อสารและอินเตอร์เน็ต ก็นิยมจ้างฟรีแลนซ์ชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวอินเดีย) เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ หรือพนักงานเขียนโปรแกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลง

คำว่า Outsource เมื่อเป็นคำกริยา หมายถึง ทำสัญญาจ้างงานบุคคลภายนอก ตามลักษณะเงื่อนไขที่อธิบายไปข้างต้น ส่วนคำว่า Outsourcing เป็นคำนาม หมายถึง การทำสัญญาจ้างงานบุคคลภายนอก

  • We should outsource this work to another company.
    • เราควรจ้างบริษัทอื่นมาช่วยทำงานนี้
  • You can save the budget and speed up the project by outsourcing it.
    • คุณสามารถประหยัดเวลาและจบโปรเจ็กต์ได้เร็วขึ้นด้วยการจ้างบุคคลภายนอกมาช่วยงาน

Freelance กับ Outsource ใช้ให้ถูกต้อง

ทุกวันนี้ อ. ผึ้ง เห็นหลายคนใช้คำว่า Outsource กับ Freelancer สลับกันบ่อยจริงๆ ค่ะ จนเริ่มเป็นห่วงว่าวันหนึ่งความเคยชิน จะทำให้เราหลงลืมความถูกต้อง

วิธีจำง่ายๆ คือ ถ้าเราเป็น “ผู้ต้องการจ้างบุคคลภายนอกมาช่วยงาน” นั่นแปลว่าเราคือบริษัทหลักที่เป็นเจ้าของโปรเจ็กต์นั้น แต่ถ้าเราเป็น “บุคคลภายนอกผู้ถูกจ้างเข้ามาช่วยงาน” นั่นแปลว่าเราเป็น Freelancer


มาดูตัวอย่างการใช้ในประโยคกัน

  • We need to outsource this project, so let’s find some freelancers to help us with it.
    • เราต้องจ้างบุคคลภายนอกมาทำโปรเจ็กต์นี้ เราหาฟรีแลนซ์มาช่วยงานเถอะ
  • I am a freelancer looking for an IT outsourcing job.
    • ฉันเป็นฟรีแลนซ์ที่กำลังมองหางานไอทีแบบสัญญาจ้างบุคคลภายนอก
  • That company is offering a fixed term freelance contract.
    • บริษัทนั้นเสนอสัญญาจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ตามระยะเวลาที่กำหนด

ได้รู้ความแตกต่างทั้งความหมายและวิธีการใช้ Freelance กับ Outsource กันแล้ว การเซ็นสัญญาจ้างงานคราวหน้า เราอยู่ในตำแหน่งหน้าที่แบบไหน เลือกให้คำให้ถูกต้องนะคะ


สำหรับผู้สนใจพัฒนาทักษะการเรียนรู้และการทำงาน ติดตามความรู้และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ เทคนิคคำศัพท์ เทคนิคการเรียน การพัฒนาสมอง และความจำ ได้ที่ Website: alphamaxlearning.com และ Facebook: Arada – Alphamax Learning




บทความมีลิขสิทธิ์ : ขอบคุณที่ไม่คัดลอก หรือดัดแปลงเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

ใส่ความเห็น