ความจำสองประเภทที่หลายคนยังสับสนคือ ความจำระยะสั้น (Short-Term Memory) และ ความจำใช้งาน (Working Memory) ถึงแม้สองคำนี้จะเกี่ยวข้องกันและบางครั้งใช้แทนกันในบริบททั่วไป แต่ในทางจิตวิทยาและประสาทวิทยา มีความแตกต่างกันค่ะ
มาดูบทบาทที่สำคัญของความจำทั้งสองประเภทกัน รวมทั้งเทคนิคง่ายๆ ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพความจำของเราด้วย
บทบาทและลักษณะที่แตกต่าง
ความจำระยะสั้น (Short-Term Memory)
- ความจำระยะสั้นเป็นระบบที่เก็บข้อมูลชั่วคราวในช่วงเวลาสั้นๆ (ประมาณ 15-30 วินาที)
- มีขีดจำกัดในการเก็บข้อมูล (โดยทั่วไปประมาณ 7 ± 2 หน่วยข้อมูล เช่น หมายเลขโทรศัพท์ รหัสพาสเวิร์ด หรือชื่อเฉพาะ)
- ทำหน้าที่เป็นพื้นที่พักข้อมูลก่อนที่จะถูกลืม (ถ้าสมองเห็นว่าไม่สำคัญ) หรือถูกส่งไปยัง ความจำระยะยาว (Long-Term Memory) (ถ้าสมองเห็นว่าสำคัญ) โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ของสมอง
- เกี่ยวข้องกับสมองส่วน Prefrontal Cortex ซึ่งทำหน้าที่จัดการกับการเก็บข้อมูลชั่วคราว
ตัวอย่าง: การจำหมายเลขโทรศัพท์ไว้ในหัวชั่วคราวจนกว่าจะกดโทรออก
ความจำใช้งาน (Working Memory)
- ความจำใช้งานเป็นระบบที่ไม่เพียงแต่เก็บข้อมูลชั่วคราว แต่ยังจัดการและประมวลผลข้อมูลในขณะใช้งานด้วย
- ความจำใช้งานเป็นส่วนที่ซับซ้อนกว่าความจำระยะสั้น
- เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองหลายด้าน เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลเก่ากับข้อมูลใหม่การประมวลผล
- มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหา คิดเชิงตรรกะ และตัดสินใจ
- เกี่ยวข้องกับทั้ง Prefrontal Cortex (จัดการและวางแผน) และ Parietal Lobes (เชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่ต่างๆ) ทำให้สามารถจัดการข้อมูลหลายชุดพร้อมกัน
ตัวอย่าง:
การคำนวณเลขในใจ เช่น จำตัวเลข 23 และ 47 พร้อมบวกสองตัวเลขเข้าด้วยกัน

เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพความจำ
ความจำระยะสั้น สามารถพัฒนาได้ด้วยการทำซ้ำและการฝึกจำส่วนความจำใช้งาน สามารถพัฒนาได้ด้วยกิจกรรมที่กระตุ้นการคิด เช่น การเล่นหมากรุก การแก้ปัญหา หรือการเล่นเกมฝึกสมอง
การพัฒนาความจำระยะสั้นและความจำใช้งานสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการทำงานในชีวิตประจำวันให้เราได้ค่ะ เทคนิคที่สามารถนำมาใช้ เช่น:
- การทบทวนและทำซ้ำ (Rehearsal)
ช่วยให้ข้อมูลจากความจำระยะสั้นถูกส่งต่อไปยังความจำระยะยาว เช่น การท่องจำข้อมูลสำคัญต่างๆ - การแบ่งข้อมูล (Chunking)
ช่วยลดภาระของสมองในการจัดการข้อมูล เช่น การแบ่งหมายเลขโทรศัพท์เป็นกลุ่มเล็กๆ - การใช้เทคนิคเชื่อมโยง (Association)
การเชื่อมโยงข้อมูลใหม่เข้ากับความรู้หรือประสบการณ์เดิม - การบริหารสมอง (Brain Exercises)
การเล่นเกมพัฒนาสมอง เช่น เกมจำภาพ หรือปริศนาต่างๆ - การดูแลสุขภาพ
การนอนหลับเพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
สรุปก็คือ
ความจำแต่ละประเภทมีหน้าที่เฉพาะและเกี่ยวข้องกับสมองส่วนต่างๆ ในการทำงานร่วมกัน ทั้งสองระบบเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเรียนรู้และการคิดอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความจำใช้งานมีบทบาทสำคัญกว่าในการประมวลผลข้อมูลในสถานการณ์ที่ต้องใช้เหตุผลหรือการแก้ปัญหา
การเข้าใจการทำงานของความจำช่วยให้เราสามารถพัฒนาความสามารถในการเก็บข้อมูลในสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อ. ผึ้ง ย้ำว่าทั้งสองประเภทสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้นะคะ ขอเพียงเรามีวินัยและมองหาวิธีการที่เหมาะสมกับความถนัดของตัวเอง ขอให้ทุกคนสนุกกับการเรียนรู้ค่ะ
บทความมีลิขสิทธิ์ : ขอบคุณที่ไม่คัดลอก หรือดัดแปลงเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อก่อนได้รับอนุญาต
สำหรับผู้สนใจพัฒนาทักษะการเรียนรู้และการทำงานอย่างมือโปร ติดตามความรู้และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ เทคนิคคำศัพท์ เทคนิคการเรียน การพัฒนาสมอง และความจำ ได้ที่ Website: alphamaxlearning.com และ Facebook: Arada – Alphamax Learning
